โรคความดันโลหิตสูง คือ

โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) คือ ภาวะที่ค่าความดันในหลอดเลือดแดงสูงกว่าระดับปกติเป็นเวลานาน โดยทั่วไปแพทย์จะวินิจฉัยเมื่อค่าความดันโลหิตอยู่ที่ 140/90 มิลลิเมตรปรอท หรือสูงกว่านี้ในการวัดหลายครั้งติดต่อกัน 

โรคนี้ถูกขนานนามว่าเป็น เพชฌฆาตเงียบ (Silent Killer) เพราะในช่วงแรกมักไม่แสดงอาการใดๆ แต่ส่งผลเสียต่อหลอดเลือด หัวใจ สมอง ไต และอวัยวะสำคัญอื่นๆอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้ตัว

ตอนที่ 1 : สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง

ตอนที่ 2 : อาการและภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง

ตอนที่ 3 : ลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง

ตอนที่ 4 : แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูง

ตอนที่ 5 : สรุป

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของ โรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูง
  1. ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

🔹 อายุ: ยิ่งอายุมาก หลอดเลือดยิ่งแข็งตัว เสี่ยงสูงขึ้น

🔹 พันธุกรรม: หากคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น

🔹 เพศ: ผู้ชายมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงในวัยหนุ่มสาว (แต่หลังวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น)

 

  1. ปัจจัยที่ควบคุมได้

🍛 การรับประทานอาหารเค็มจัด: โซเดียมทำให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มความดัน

⚖️ น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: ร่างกายต้องการแรงดันสูงขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือด

🚬 การสูบบุหรี่: ทำให้หลอดเลือดตีบและแข็งตัว

🍻 การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป: เพิ่มความดันโลหิตและเสี่ยงโรคหัวใจ

💤 ความเครียดสะสม: ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นแบบชั่วคราวและเรื้อรัง

🏃‍♂️ ขาดการออกกำลังกาย: หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น เสี่ยงต่อความดันสูง
ดื่มคาเฟอีนมากเกินไป: อาจเพิ่มความดันชั่วคราวในบางคน

อาการและภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง

อาการที่พบบ่อย

  • ปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย
  • ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เพราะเล่น หวยไว เพลิน
  • เลือดกำเดาไหลบ่อย
  • มองเห็นไม่ชัด

🚨 หมายเหตุ: โรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะแรก จึงถูกเรียกว่า “เพชฌฆาตเงียบ” 

 

✅ ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ต้องระวัง

  1. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): เสี่ยงต่อเส้นเลือดในสมองแตกหรืออุดตัน ทำให้เกิดอัมพฤกษ์หรืออัมพาต 
  2. โรคหัวใจ: ทำให้หัวใจโต หัวใจวาย หรือหัวใจขาดเลือด 
  3. โรคไตเรื้อรัง: ความดันสูงทำให้ไตเสื่อมลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นไตวาย 
  4. หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง (Aneurysm): อาจทำให้หลอดเลือดฉีกหรือแตก เสี่ยงเสียชีวิตฉับพลัน 
  5. ปัญหาการมองเห็น: หลอดเลือดในจอตาเสียหาย ทำให้สายตาพร่ามัว หรือถึงขั้นตาบอด

ลดความเสี่ยงของ โรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูง

1. ควบคุมอาหาร ลดเค็ม เพิ่มผักผลไม้

  • หลีกเลี่ยงอาหารโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของดอง
  • เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต

 

2. ควบคุมน้ำหนักและไขมันในร่างกาย

  • ลดไขมันสะสม ลดภาระการทำงานของหัวใจ
  • ดัชนีมวลกาย (BMI) ควรอยู่ในเกณฑ์ปกติ (18.5-22.9)

 

✅ 3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

  • เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาที/วัน 5 วัน/สัปดาห์
  • ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่น ลดแรงต้านทานการไหลเวียนของเลือด

 

✅ 4. งดสูบบุหรี่ และลดแอลกอฮอล์

  • สารพิษในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เสี่ยงความดันสูง
  • ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณเหมาะสม หรือหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด

 

✅ 5. ลดความเครียด พักผ่อนเพียงพอ

  • หมั่นทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ทำสมาธิ ฟังเพลง อ่านหนังสือ
  • นอนหลับให้ได้ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

แนวทางการรักษา โรคความดันโลหิตสูง

แนวทางการรักษามักจะประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Lifestyle Modification) และ การใช้ยา (Medication) ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตามความรุนแรงของโรค ภาวะแทรกซ้อน และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ของผู้ป่วยแต่ละราย

  1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เป็นหัวใจสำคัญของการรักษาโรคไม่ว่าผู้ป่วยจะได้รับยาหรือไม่ก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ หวยไว ของโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • การควบคุมอาหาร : คุมอาหารเช่น ลดโซเดียม , เน้นผักและผลไม้ , บริโภคธัญพืชไม่ขัดสี , ลดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ , ลดน้ำตาล และ ปฏิบัติตามแนวทาง DASH Diet
  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ : ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่มีความหนักปานกลาง อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ
  • การควบคุมน้ำหนัก : ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความดันโลหิตสูง การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • การเลิกสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและแคบลง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ทันที
  • การจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ : ผู้ชายไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้วมาตรฐานต่อวัน และผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้วมาตรฐานต่อวัน การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปสามารถเพิ่มความดันโลหิตได้
  • การจัดการความเครียด : ความเครียดสามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นชั่วคราว และหากเครียดเรื้อรังก็อาจส่งผลต่อความดันโลหิตได้
  • การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนไม่พอหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) สามารถส่งผลต่อความดันโลหิตได้ ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน
  1. การใช้ยา

แพทย์จะพิจารณาการใช้ยาเมื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงมาก หรือมีปัจจัยเสี่ยง/ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ การใช้ยาต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และห้ามหยุดยาเอง

  •  ยาขับปัสสาวะ (Diuretics)
  • ยาปิดกั้นเบต้า (Beta-blockers)
  •  ยาขยายหลอดเลือดกลุ่ม ACE inhibitors
  • ยาขยายหลอดเลือดกลุ่ม ARBs
  • ยาปิดกั้นแคลเซียม
  • ยาขยายหลอดเลือดอื่นๆ
  • ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง

สรุป

ภาวะที่แรงดันเลือดในหลอดเลือดแดงสูงเกินค่าปกติ ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อโรคหัวใจหลอดเลือด สมอง และไตวาย สาเหตุหลักมาจากกรรมพันธุ์ อายุ อ้วน เค็ม เครียด และขาดการออกกำลังกาย 

สามารถป้องกันได้ด้วยการควบคุมอาหาร ลดเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดน้ำหนัก งดสูบบุหรี่ และลดแอลกอฮอล์ รวมถึงการตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อควบคุมความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ